ในปัจจุบันนี้ หลายๆ ครอบครัวในประเทศไทย เป็นลักษณะครอบครัวเดี่ยว ที่ประกอบไปด้วยพ่อ แม่ และลูก ไม่ใช่ครอบครัวขยาย ที่มีปู่ย่าตายาย พักอาศัยอยู่ด้วย และคอยให้ความช่วยเหลือเหมือนแต่ก่อน ประกอบกับพ่อแม่ยุคปัจจุบันนี้ จะต้องออกไปทำงานนอกบ้าน ช่วยกันทำมาหากิน เลี้ยงดูครอบครัว ผู้เป็นภรรยา ไม่ได้มีหน้าที่เป็นแม่บ้านคอยดูแลบ้าน และเลี้ยงลูกเหมือนเมื่อก่อน ทำให้หลายๆ ครอบครัวปัจจุบันนี้ ต้องประสบปัญหาหลัก คือ การขาดคนดูแลบ้าน หรือที่เรียกว่า แม่บ้าน นั่นเอง ในยุคที่แม่บ้านและพี่เลี้ยงเด็ก เป็นเหมือนปัจจัยที่ 5 ที่หลายๆ ครอบครัวขาดไม่ได้ คำถามที่ตามมาก็คือ แล้วเราจะหาแม่บ้านและพี่เลี้ยง ได้จากที่ไหน และเริ่มต้นอย่างไรดี วันนี้เรามีบทความดีๆ และข้อแนะนำ มาฝากทุกท่านค่ะ
1. ลงประกาศหาเอง ตามกลุ่มแม่บ้านต่างๆ ที่มีอยู่แล้วในโลกสังคมออนไลน์ ปัจจุบันนี้ ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวไกล ทำให้สื่อสังคมออนไลน์ เข้ามามีบทบาทในชีวิตมนุษย์มากขึ้น หลายๆ ครอบครัว ทำการโพสหาแม่บ้านเอง ตามกลุ่มต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น facebook หรือ LINE เพราะเข้าใจว่า จะช่วยลดค่าใช้จ่าย ในการจัดหา จากบริษัทจัดหาแม่บ้าน แต่หารู้ไม่ว่า การประกาศลงโพสต์ ข้อความที่เกี่ยวกับครอบครัวและบ้านของเราอย่างละเอียด ลงตามสื่อสาธารณะเช่นนี้ มีความเสี่ยงต่อการที่จะเจอมิจฉาชีพเข้ามาฉวยโอกาส ในการแฝงตัวเข้ามาสมัครแม่บ้านและพี่เลี้ยง อย่างมากที่สุด เพราะคนเหล่านี้ รู้จุดอ่อนว่า บ้านนี้ต้องการหาคนอย่างเร่งด่วน จึงแฝงตัวเข้ามาสมัครงานอย่างรวดเร็ว โดยที่หลายๆ ครอบครัวก็ไม่ได้ทำการตรวจสอบประวัติ ก่อนรับแม่บ้านเข้าทำงานแต่อย่างใด ถือว่าเป็นการประมาทอย่างร้ายแรงที่สุดเลยค่ะ ข้อดี : ไม่ต้องเสียค่าบริการการจัดหา ข้อเสีย : สุ่มเสี่ยงที่จะเจอมิจฉาชีพ 2. ให้แม่บ้านเดิม หาแม่บ้านใหม่มาให้ วิธีนี้ ก็นับว่า มีความรอบคอบกว่าวิธีแรกค่ะ เนื่องจากคนที่แนะนำมา เป็นคนรู้จัก ที่ทำงานในบ้านเรา และรู้จักครอบครัวเรามาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว มีความไว้เนื้อเชื่อใจกันในระดับหนึ่ง แต่ฝีมือการทำงานของแม่บ้านคนเดิมของเรานั้น ไม่ได้มีความสัมพันธ์ อย่างมีนัยยะสำคัญ กับ ฝีมือการทำงานของแม่บ้านคนใหม่นะคะ เพราะไม่ใช่คนเดียวกัน การที่แม่บ้านเก่าทำงานดี ไม่ได้แปลว่า คนใหม่ที่เขาแนะนำมา จะต้องทำงานดีเหมือนกันนะคะ นั่นคือในเรื่องฝีมือการทำงาน ส่วนในเรื่องนิสัยใจคอก็เช่นกัน แม่บ้านคนเก่า เป็นคนดีไว้ใจได้ ซื่อสัตย์ ก็ไม่ได้เป็นการการันตีว่า แม่บ้านคนใหม่จะมีนิสัยเหมือนคนเก่าเช่นกันค่ะ ดังนั้นการหาแม่บ้านโดยวิธีนี้ ก็ยังคงถือว่ามีความสุ่มเสี่ยงอยู่ แต่ก็ถือว่า ดีกว่าวิธีแรกค่ะ ข้อดี : เสียค่าใช้จ่ายเล็กน้อย เป็นสินน้ำใจ ข้อเสีย : ไม่มีการทดสอบฝีมือแรงงานก่อนรับ 3. ใช้บริการกับบริษัทจัดหาแม่บ้านมืออาชีพ ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ทุกวันนี้ บริษัทจัดหาแม่บ้าน ไม่ใช่ธุรกิจของมิจฉาชีพที่แฝงตัวเข้ามาหากินกับนายจ้าง เหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไปแล้วค่ะ มีบริษัทจัดหาแม่บ้านและพี่เลี้ยงเด็กดีๆ ที่เชื่อถือได้ เกิดขึ้นอย่างมากมายใน พ.ศ. นี้ เพียงแต่ลอง search หาข้อมูลใน google พิมพ์คำว่า "หาแม่บ้าน" หรือ "หาพี่เลี้ยง" ก็จะขึ้นมาเป็นสิบๆ บริษัท ให้ทุกท่านเลือกใช้บริการ ได้อย่างเต็มที่เลยค่ะ ที่นี้เราจะพิจารณาเลือกใช้บริษัทไหน อย่างไร เราก็ต้องดูจากหลายๆ ปัจจัย อาทิ - บริษัทนั้นเปิดทำการมาหลายปีแล้วหรือยัง - มีฐานลูกค้ามากพอหรือไม่ - มีบริการตอบโจทย์ที่เราต้องการหรือไม่ - ค่าบริการเหมาะสมหรือไม่ - เจ้าของและทีมงาน มีความน่าเชื่อถือหรือไม่ - มีระบบ การคัดกรองคนงาน อย่างดีหรือไม่ - มีการตรวจประวัติคนงานหรือไม่ - มีการฝึกทดสอบฝีมือการทำงานหรือไม่ และที่สำคัญที่สุดคือ มีเพื่อน พี่ น้อง หรือคนในครอบครัวของเรา เคยใช้บริการจากบริษัทนี้หรือไม่ และเขามีความพึงพอใจในการให้บริการมากน้อยเพียงไร แม้ว่า การใช้บริการจัดหาแม่บ้าน จากบริษัทเหล่านี้ จะมีค่าใช้จ่าย แต่ก็ยังถือว่าน้อยมากๆ เมื่อเทียบกับ ความสุ่มเสี่ยง และความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น ต่อร่างกายและทรัพย์สิน ซึ่งเกิดจากการหาแม่บ้านด้วยตัวเองนะคะ ข้อดี : มีทีมงานมืออาชีพ และระบบเทคโนโลยี ช่วยคัดกรองแม่บ้าน เพื่อให้เกิดความผิดพลาดน้อยที่สุด ข้อเสีย : มีค่าใช้จ่ายในการจัดหา เดี๋ยวนี้ การจัดหาแม่บ้านและพี่เลี้ยง ไม่ใช่เป็นสิ่งที่เกินความจำเป็นอีกต่อไปค่ะ ทุกวันนี้ถือเป็นเรื่องปกติมาก อีกทั้งยังมี บริษัทจัดหาแม่บ้านที่เป็นมืออาชีพอีกมากมาย เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค รักใคร ชอบใคร ถูกใจบริการแบบไหน เลือกช็อปปิ้งกันได้เองเลยนะคะ ด้วยความปรารถนาดี จาก บริษัท เฮ้ เฮลเปอร์ จํากัด บริษัทจัดหาผู้ช่วยภายในบ้านอันดับ 1 ในประเทศไทย ที่ให้บริการจัดหาแม่บ้านและพี่เลี้ยง มามากกว่า 100,000 ครัวเรือน ในระยะเวลา 7 ปี